ยินดีต้อนรับสู่ BLOGGER นางสาวนภัสสร คล้ายพันธ์

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6 วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6
วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561
นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร 





นำเสนอคุณสมบัติผู้นำจากชื่อ 
















เข้าสู่บทเรียน

โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
  • นโยบาย
  • ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
  • แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
  • แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
  • ความต้องการของชุมชน

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
  1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ

  1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
  2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
  3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย




การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ 
(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
  • รูปแบบในระบบโรงเรียน
  • รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
  • รูปแบบตามอัธยาศัย


3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
    คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”
หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. การบริหารงานวิชาการ
  เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
  คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานธุรการในสถานศึกษา
  - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
  - งานทะเบียนและรายงาน
  - งานรักษาความปลอดภัย
  - งานการเงินและพัสดุ
  - งานพัสดุ
4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย
    คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
    - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
    - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
    คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด

  • หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
  • หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
  • หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
  • หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน ( Return Power to People)
  • หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
  • หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)

รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน

  • ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council )
  • บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
  • การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
  • ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)
สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบเบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง 
 องค์กรแห่งการเรียนรู้ 
ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้
(ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge)

  • การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
  • รูปแบบของความคิด (Mental Models)
  • วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
  • การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
  • การคิดเชิงระบบ (System Thinking)


การบริหารแบบมีส่วนร่วม

สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
  • การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
  • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
  • การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
  • สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
  • สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
  • ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
  • การบริหารแบบมีส่วนร่วม
  • ผลงานที่เกิดขึ้น
  • สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ
ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
  • การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
  • ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
  • ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
  • การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
  • ใช้งบประมาณมาก
  • ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
  • การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน

การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ (SWOT Analysis Workshop)
  คือการวิเคราะห์สำรวจตรวจสอบสภาพภายในองค์กร และสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน
S  : จุดแข็ง
W : จุดอ่อน
O  : โอกาส
T  : อุปสรรค
  • แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องไม่มองข้ามไปคือ เรากำลังจะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ ที่อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจจากการสำรวจ
  • จุดอ่อน:W-จุดแข็ง:Sภายในองค์กร และ
  • โอกาส:O-อุปสรรค:Tภายนอก
SWOT ให้คำตอบอะไรกับเรา
  1. อะไรคือเรื่องหลักที่เราต้องเผชิญในวันนี้
  2. เราจะจัดการกับเรื่องหลักนี้อย่างไร
ข้อสังเกต
  • บางคนใช้ SWOT เพื่อตั้งคำถามอย่างเดียว
  • บางคนใช้เหตุผลของ SWOT มองข้ามปัญหาไป
เรามาทำความคุ้นเคยกับ SWOT ด้วยกัน
  • ถ้าคุณมีภารกิจ ที่จะต้องให้บริการที่มีภาพต่อชุมชน ตรงต่อเวลา ข้อมูลน่าเชื่อถือ และมีภาพพจน์ที่ดี
  • มีการกำหนดหน้าที่ และภารกิจให้กับทีมงานทุกคน
  • ภารกิจบรรลุเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ในการเพิ่มมูลค่า(Value Creativity) และคุณค่าความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้น


จุดแข็ง : Strengths
ตัวอย่าง
  • งานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข
  • งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
  • อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
  • ทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม
หมายเหตุ
  1. บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง
  2. ยกตัวอย่าง....
นายแดงดี สีใส อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมินภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
  • ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่


เอาละ! ตอนนี้มาดูสิว่าอะไรน่าจะเป็น
อุปสรรค : Threats
หมายเหตุ
  • การมองถึงอุปสรรค T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
  • ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความสำเร็จ โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO
อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
  • ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
  • ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
  • ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง
สุดท้ายเรามาดู โอกาส : Opportunities
โอกาส : Opportunities
  • โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
  • มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
  • มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
  • เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น
หมายเหตุ
• โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)




ประเมินตนเอง
  • เข้าเรียนตรงเวลา
  •  ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างเรียได้อย่างเคร่งคัด
  • มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน

ประเมินเพื่อน
  • เข้าเรียนตรงเวลา
  • แต่งกายถูกระเบียบ
  •  มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน


ประเมินอาจารย์
  • เข้าสอนตรงเวลา
  • แต่งกายสุภาพเหมาะสม 
  • เข้าสอนตรงเวลา
  • มีการจัดเตรียมแผนการสอนล่วงหน้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 16 วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ.2561

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 16  วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ.2561 นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร อาจารย...